สถิติ
เปิดเว็บ | 15/04/2010 |
อัพเดท | 13/11/2024 |
ผู้เข้าชม | 11,422,898 |
เปิดเพจ | 17,077,654 |
สินค้าทั้งหมด | 2,001 |
อสุภกรรมฐาน-หนังสือสำหรับพิจารณาสังขาร-ราคา200บาท
ข้อมูลสินค้า
-
รหัสสินค้า
9786160307548
-
เข้าชม
8,676 ครั้ง
-
แก้ไขล่าสุดเมื่อ
23/09/2017 10:28
-
รายละเอียดสินค้า
( อสุภกรรมฐาน ) หนังสือสำหรับพิจารณาสังขาร ราคาเล่มละ 200 บาท
หลวงปู่สังวาลย์ เขมโก : วัดทุงสามัคคีธรรม จังหวัดสุพรรณบุรี
ขนาด 22x30 cm
กระดาษอาร์ตมัน 4 สีทั้งเล่ม , ปกแข็งเย็มกี่อย่างดี
จำนวน 56 หน้า
....................................................................................
เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้
อสุภกรรมฐาน แปลว่า กรรมฐานที่กำหนดอสุภะเป็นอารมณ์,
กรรมฐานที่พิจารณาให้เห็นว่าเป็นของไม่งาม
อสุภกรรมฐาน หมายถึงการบำเพ็ญกรรมฐานโดยการพิจารณาอสุภะหรือพิจารณาร่างกาย
ของตนหรือของผู้อื่นว่าเป็นของไม่งาม
ไม่น่ายึดมั่นถือมั่น แต่เป็นของน่าเกลียด โสโครก
เช่นพิจารณาซากศพที่นอนให้เขารดน้ำก่อนใส่โลง ก่อนเผาหรือฝัง
มองดูจนกระทั่งเกิดนิมิตติดตาแล้วกลับมานั่งนึกพิจารณา
ให้เห็นนิมิตนั้นจนเจนใจเหมือนเห็นศพจริง
ภาวนาไปจนเกิดปัญญาเห็นแจ้งถึงไตรลักษณ์
อสุภกรรมฐานเป็นเครื่องกำจัดราคะ
ทำให้เกิดความเบื่อหน่ายคลายรักยึดถือร่างกาย
คลายความหลงรูป หลงสวย หลงงามลงได้
....................................................................................
บทพิจารณาสังขาร
สัพเพ สังขารา อะนิจจา, สังขารคือร่างกายจิตใจ, แลรูปธรรมนามธรรมทั้งหมดทั้งสิ้น,
มันไม่เที่ยง, เกิดขึ้นแล้วดับไป มีแล้วหายไป.
สับเพ สังขารา ทุกขา, สังขารคือร่างกายจิตใจ, แลรูปนามธรรมทั้งหมดทั้งสิ้น,
มันเป็นทุกข์ทนยาก, เพราะเกิดขึ้นแล้ว , แก่ เจ็บ ตายไป.
สัพเพ ธัมมา อะนัตตา, สิ่งทั้งหลายทั้งปวง, ทั้งที่เป็นสังขารแลมิใช่สังขาร ทั้งหมดทั้งสิ้น
ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน, ไม่ควรถือว่าเรา ว่าของเรา ว่าตัวว่าตนของเรา.
....................................................................................
หนังเล่มนี้ ถ้าตกอยู่ในมือของผู้มีสติปัญญา ได้พิจารณาแล้ว
จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่ง ซึ่งมีผลต่อการสืบต่ออายุพระศาสนาอย่างแน่นอน
จึงขออนุโมทนามายังผู้จัดทำ ขอให้อานิสงส์
ส่งผลบุญไปยังครอบครัวท่าน จงประสบแต่ความสุข และความเจริญ
เป็นผู้มีสติปัญญา มีดวงตาเห็นธรรมตามคำสั่งของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเทอญ
....................................................................................
การพิจารณาอสุภ
การพิจารณาอสุภทั้ง ๑๐ อย่างนี้ ท่านสอนให้พิจารณาเพื่อถือเอานิมิตโดยอาการ ๖ อย่าง
ดังต่อไปนี้
๑. พิจารณาโดยสี คือให้กำหนดว่า ซากศพนี้เป็นร่างกายของคนดำหรือคนขาวหรือเป็น
ร่างกายของคนที่มีผิวด่างพร้อย คือผิวไม่เกลี้ยงเกลา
๒. พิจารณาโดยเพศ อย่ากำหนดว่า ร่างกายนี้เป็นหญิงหรือชาย พึงพิจารณาว่าซากศพ
นี้เป็นร่างกายของคนที่มีอายุน้อย มีอายุกลางคน หรือเป็นคนแก่
๓. กำหนดพิจารณาโดยสัณฐาน คือกำหนดพิจารณาว่า นี่เป็นคอ เป็นศีรษะ เป็นท้อง
เป็นเอว เป็นขา เป็นเท้า เป็นแขน เป็นมือ ดังนี้เป็นต้น
๔. กำหนดโดยทิศ ทิศนี้ท่านหมายเอาสองทิศ คือ ทิศเบื้องบน ได้แก่ทางด้านศีรษะ
ทิศเบื้องต่ำ ได้แก่ทางด้านปลายเท้าของซากศพ ท่านมิได้หมายถึงทิศเหนือทิศใต้ตามที่นิยมกัน
ท่านให้สังเกตว่า ที่เห็นอยู่นั้นเป็นทางศีรษะ หรือด้านปลายเท้า
๕. กำหนดพิจารณาโดยที่ตั้ง ท่านให้พิจารณากำหนดจดจำว่า ซากศพนี้ศีรษะวางอยู่ที่
ตรงนี้ มือวางอยู่ตรงนี้ เท้าวางอยู่ตรงนี้ ตัวเราเอง เวลาที่พิจารณาอสุภนี้ เรายืนอยู่ตรงนี้
๖. กำหนดพิจารณาโดยกำหนดรู้ หมายถึงการกำหนดรู้ว่า ร่างกายสัตว์และมนุษย์นี้
มีอาการ ๓๒ เป็นที่สุด ไม่มีอะไรสวยสดงดงามจริงตามที่ชาวโลกผู้มัวเมาไปด้วยกิเลสหลงใหล
ใฝ่ฝันอยู่ ความจริงแล้วก็เป็นของน่าเกลียดโสโครก มีกลิ่นเหม็นคุ้งมีสภาพขึ้นอืดพอง มีน้ำเลือด
น้ำหนองเต็มร่างกาย หาอะไรที่จะพอพิสูจน์ได้ว่า น่ารักน่าชมไม่มีเลย สภาพของ ร่างกายที่พอจะ
มองเห็นว่าสวยสดงดงามพอที่จะอวดได้ก็มีนิดเดียว คือ หนังกำพร้าที่ปกปิด อวัยวะภายในทำให้มอง
ไม่เห็นสิ่งโสโครก คือ น้ำเลือด น้ำหนอง ดี เสลด ไขมัน อุจจาระ ปัสสาวะ ที่ปรากฏอยู่ภายในแต่
ทว่าหนังกำพร้านั้นใช่ว่าจะสวยสดงดงามจริงเสมอไปก็หาไม่ ถ้าไม่คอยขัดถูแล้ว ไม่นานเท่าใด
คือไม่เกินสองวันที่ไม่ได้อาบน้ำชำระร่างกาย หนังที่สดใส ก็กลายเป็นสิ่งโสโครก เหม็นสาบ
เหม็นสาง ตัวเองก็รังเกียจตัวเอง เมื่อมีชีวิตอยู่ก็เอาดีไม่ได้ พอตายแล้วยิ่งโสโครกใหญ่ร่างกาย
ที่เคยผ่องใส ก็กลายเป็นซากศพที่ขึ้นอืดพอง น้ำเหลืองไหลมีกลิ่นเหม็นตลบไปทั่วบริเวณ
คนที่เคยรักกันปานจะกลืน พอสิ้นลมปราณลงไปในทันทีก็พลันเกลียดกัน แม้แต่จะเอามือเข้าไป
แตะต้องก็ไม่ต้องการ บางรายแม้แต่จะมองก็ไม่อยากมอง มีความรังเกียจซากศพ ซ้ำร้ายกว่านั้น
เมื่ออยู่รักและหวงแหน จะไปสังคมสมาคมคบหา สมาคมกับใครอื่นไม่ได้ ทราบเข้าเมื่อไรเป็น
มีเรื่อง แต่พอตายจากกันวันเดียวก็มองเห็นคนที่แสนรักกลายเป็นศัตรูกัน กลัววิญญาณคนตาย
จะมาหลอกมาหลอน เกรงคนที่แสนรักจะมาทำอันตราย ความเลวร้ายของสังขารร่างกายเป็น
อย่างนี้ เมื่อพิจารณากำหนดทราบร่างกายของซากศพทั้งหลายที่พิจารณาเห็นแล้วก็น้อมนึกถึง
สิ่งที่ตนรัก คือคนที่รัก ที่ปรารถนา ที่เราเห็น ว่าเขาสวยเขางาม เอาความจริงจากซากอสุภ
เข้าไปเปรียบเทียบดู พิจารณาว่า คนที่เรารักแสนรัก ที่เห็นว่าเขาสวยสดงดงามนั้นเขากับ
ซากศพนี้มีอะไรแตกต่างกันบ้าง เดิมซากศพนี้ก็มีชีวิตเหมือนเขา พูดได้ เดินได้ ทำงานได้
แสดงความรักได้ เอาอกเอาใจได้ แต่งตัวให้สวยสดงดงามได้ ทำอะไร ๆ ได้ทุกอย่างตามที่
คนรักของเราทำ แต่บัดนี้เขาเป็นอย่างนี้ คนรักของเราก็เป็นอย่างเขา เราจะมานั่งหลอกตนเอง
ว่าเขาสวย เขางาม น่ารัก น่าปรารถนาอยู่เพื่อเหตุใด แม้แต่ตัวเราเอง สิ่งที่เรามัวเมากาย
เมาชีวิต หลงใหลว่า ร่างกายเราสวยสดงามวิไล ไม่ว่าอะไรน่ารักน่าชมไปหมด ผิวที่เต็มไปด้วย
เหงื่อไคล เราก็เอาน้ำมาล้าง เอาสบู่มาฟอก นำแป้งมาทา เอาน้ำหอมมาพรมแล้วก็เอาผ้าที่เต็มไป
ด้วยสีมาหุ้มห่อเอาวัตถุมีสีต่างๆ มาห้อยมาคล้องมองดูคล้ายบ้าหอบฟางแล้วก็ชมตัวเองว่าสวยสด
งดงามลืมคิดถึงสภาพความเป็นจริง ที่เราเองก็หอบเอาความโสโครกเข้าไว้พอแรงเราเองเรารู้ว่า
ในกายเราสะอาดหรือสกปรก ปากเราที่ชมว่าปากสวย ในปากเต็มไปด้วยเสลดน้ำลาย น้ำลายของ
เราเองเมื่ออยู่ในปากอมได้ กลืนได้ แต่พอบ้วนออกมาแล้ว กลับรังเกียจไม่กล้าแม้แต่จะเอามือแตะ
นี่เป็นสิ่งสกปรกที่เรามีหนึ่งอย่างละต่อไปก็อุจจาระ ปัสสาวะ เลือด น้ำเหลือง ที่หลั่งไหลอยู่ในร่างกาย พอไหลออกมานอก
กายเราก็รังเกียจทั้ง ๆ ที่เป็นตัวของเราเอง นี้ก็เป็นสิ่งโสโครกที่เป็นสมบัติของเราเองอีก
น้ำเลือด น้ำเหลือง ของซากศพที่เรามองเห็นนั้น ซากศพนั้นมีสภาพอย่างไร เมื่อตาย
ไปแล้วจากความเป็นคนหรือสัตว์ เราเรียกกันว่าผีตาย เขามีสภาพอย่างไร คือตายแล้วมีน้ำเลือด
น้ำเหลืองหลั่งไหลออกจากร่างกายฉันใด เราแม้ยังไม่ตาย สิ่งเหล่านั้นก็มีครบแล้ว คนที่เราคิดว่า
สวยสดงดงามตามที่นิยมกัน ก็เต็มไปด้วยความโสโครกที่น่ารังเกียจเหมือนกัน เอาอะไร มาเป็น
ของน่ารักน่าปรารถนา เรารักคนก็มีสภาพเท่ารักศพ ศพนี้น่าเกลียดน่าชังเพียงใด คนรักที่เรารัก
ก็มีสภาพอย่างนั้น พยายามพิจารณาใคร่ครวญให้เห็นติดอกติดใจจนกระทั่งเห็นสภาพของผู้ใด
ก็ตามที่เขานิยมกันว่า น่ารัก น่าชมนั้น เห็นแล้วมีความรู้สึกว่าเป็นซากศพทันที มีความรังเกียจ
สะอิดสะเอียนขึ้นมาทันทีทันใด เห็นคนหรือสัตว์มีสภาพเป็นซากศพไปหมด เต็มไปด้วยความ
รังเกียจที่จะสัมผัสถูกต้อง รังเกียจที่จะคิดว่าน่ารักน่าเอ็นดู เพราะความสวยสดงดงามเห็นผิว
ภายนอกก็มองเห็นภายใน คือเห็นเป็นสภาพถุงน้ำเลือด น้ำหนอง ถุงอุจจาระปัสสาวะที่เคลื่อนที่ได้
พูดด้วยสนทนาด้วย ก็เห็นสภาพผู้ที่พูดจาสนทนาด้วย เป็นถุงอุจจาระปัสสาวะ และถุงน้ำเลือด
น้ำหนองมาพูดคุยด้วย คิดว่าขณะนี้มีสภาพเป็นถุงน้ำเลือดน้ำหนอง มาสนทนาปราศรัยกับเรา
ต่อไปเขาก็จะกลายเป็นซากศพที่มีร่างกายอืดพอง น้ำเหลืองไหล ต่อไปกายก็จะขาดจากกัน
เป็นท่อนน้อยและท่อนใหญ่ สัตว์จะกัดกิน และในที่สุด ก็จะเหลือแต่กระดูกกระจัดกระจายไป
เขานี่เป็นผีตายชัดๆ เราก็เช่นเดียวกัน เขามีสภาพเช่นไร เราก็มีสภาพเช่นนั้น กายนี้ล้วนแต่
เป็นอนิจจัง หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้เลย แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่สะสมของโสโครกแล้ว แต่ถ้า
จะยังยืนคู่ฟ้าคู่ดินก็พอที่จะทนรักทนชอบได้บ้าง แต่นี่เปล่าเลยท่านหลงว่าสวยสดงดงามนั้น
ก็เป็นสิ่งหลอกลวง เต็มไปด้วยความโสโครกเท่านั้นยังไม่พอ กลับหาความเที่ยงแท้แน่นอน
ไม่ได้อีก ดิ้นรนกลับกลอกทรุดโทรมลงทุกวันทุกเวลาเคลื่อนเข้าไปหาความแก่ทุกวันทุกนาที
ยิ่งมากวันความเสื่อมโทรมของร่างกายก็ทวีมากขึ้น จากความเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ มาเป็นคนหนุ่ม
คนสาว จากความเป็นคนหนุ่มคนสาวมาเป็นคนแก่ การเคลื่อนไปนั้นมิใช่เคลื่อนเปล่า ยังนำเอา
โรคภัยไข้เจ็บมาทับถมให้ไม่เว้นแต่ละวัน ปวดที่โน่น ปวดที่นี่ โรคแน่น โรคจุกเสียด ปวดร้าว
มีตลอดเวลา อวัยวะที่เคยใช้คล่องแคล่วสมบูรณ์บริบูรณ์ด้วยกำลัง ก็ง่อนแง่นคลอนแคลน กำลัง
วังชาหมดไป ทำอะไรไม่ได้สะดวก หูก็หนัก ตาก็ฟาง ได้ยินเห็นอะไรไม่ถนัดเต็มไปด้วยความ
ทุกข์ จะห้ามปรามรักษาด้วยหมอวิเศษ ท่านใดก็ไม่สามารถจะยับยั้งความเคลื่อนความทรุดโทรม
นี้ได้ ในที่สุดก็พังทลายกลายเป็นซากศพที่ชาวโลกรังเกียจอย่างนี้ อัตภาพนี้เป็นสภาพโสโครก
อย่างนี้ เป็นอนิจจัง ไม่เที่ยงอย่างนี้ เป็นทุกขัง ความทุกข์อันเกิดแต่ความเคลื่อนไหวไปหาความ
เสื่อมอย่างนี้ เป็นอนัตตา เพราะเราจะบังคับบัญชาควบคุมไม่ให้เคลื่อนไปไม่ได้ ต้องเป็นไปตาม
กฎธรรมดา
พิจารณาเห็นโทษเห็นทุกข์อันเกิดแต่ร่างกาย เกิดนิพพิทาความเบื่อหน่ายในร่างกาย
ของตนเองและร่างกายของผู้อื่น เห็นสภาพร่างกายของตนเองและของผู้อื่นเป็นซากศพ หมด
ความพิสมัยรักใคร่ โดยเห็นว่าไม่มีอะไรสวยงาม เห็นเมื่อไรเบื่อหน่ายหมดความพอใจเมื่อนั้น
เห็นคนมีสภาพเป็นศพทุกขณะที่เห็นอย่างนี้ท่านเรียกว่าได้อสุภกรรมฐานในส่วนของสมถภาวนา
เห็นร่างกายเป็นซากศพ เบื่อหน่ายในร่างกาย และเห็นว่าร่างกายนี้เต็มไปด้วยความ
ไม่เที่ยง สกปรกโสมมแล้วยังหาความแน่นอนไม่ได้อีก เคลื่อนไปหาความแก่ตายทุกวันเวลา
ขณะที่เคลื่อนไปก็เต็มไปด้วยความทุกข์ เพราะต้องได้รับทุกข์จากโรค รับทุกข์จากการบริหาร
ร่างกาย มีการประกอบการงานเป็นต้น ทุกข์เพราะมีลาภแล้วลาภหมดไป มียศแล้ว ยศสิ้นไป
มีสุขแล้วก็มีทุกข์มาทับถม เดี๋ยวมีคำสรรเสริญมาป้อยอ แต่ก็ไม่นานก็ถูกนินทา เป็นเหตุให้ใจ
เป็นทุกข์ ทุกข์เพราะความเสื่อมโทรมของร่างกายมีอวัยวะทุพพลภาพ หูหนัก ตาฟาง ฟันหัก
ร่างกายร่วงโรย ความจำเสื่อม ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนของความทุกข์ทั้งสิ้น
เห็นร่างกายเป็นทุกข์แล้ว ก็เห็นความดื้อด้านของสังขารร่างกายที่บังคับบัญชาไม่ได้
คือเห็นว่าความเสื่อมโทรมอย่างนี้เราไม่ต้องการ ก็บังคับไม่ได้ ไม่ต้องการให้ปวดเจ็บเมื่อยล้า
แต่มันก็จะเป็น ไม่มีใครห้ามได้ ไม่ต้องการให้ระบบประสาทเสื่อมมันก็จะเสื่อม ใครก็ห้ามไม่ได้
ไม่ต้องการตาย มันก็ต้องตาย ไม่มีใครห้ามได้ สิ่งที่ห้ามไม่ได้นี้ ท่านเรียกว่า อนัตตา แปลว่า
เป็นสิ่งเหลือวิสัยที่จะบังคับ ที่ท่านแปล อนัตตาว่า ไม่ใช่ตัวตนนั่นเอง เพราะถ้าเป็นตัวตนของเรา
จริงแล้ว เราก็บังคับได้ ถ้าบังคับไม่ได้ก็ไม่ใช่ตัวตนของเราแน่อารมณ์ที่เห็นว่า ร่างกายนอกจากจะโสโครกน่าสะอิดสะเอียนเป็นซากศพแล้ว ยังไม่
เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เกิดความเบื่อหน่ายในการทรงสังขารร่างกาย เบื่อที่จะเกิดต่อไป
เพราะถ้าเกิดมีร่างกายในภพใด ร่างกายก็จะมีสภาพโสโครกสกปรกเป็นซากศพและไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ บังคับบัญชาไม่ได้อย่างนี้อีก ความเบื่อหน่ายในร่างกาย เบื่อในการเกิด เป็น
นิพพิทาญาณในวิปัสสนาญาณ ถ้าท่านคิดใคร่ครวญในรูปสมถะให้เห็นซากศพอยู่เสมอ และใคร่
ครวญหากฎธรรมดาควบคู่กันไป คือ เมื่อเกิดความทุกข์อันเกิดแต่การป่วยไข้ หรืออารมณ์ที่
ไม่พอใจหรือความแก่เฒ่าเข้ารบกวน ท่านก็วางใจเฉยเสียไม่ดิ้นรนกระเสือกกระสน โดยคิดว่า
นี่เป็นเรื่องของธรรมดาเกิดมามันก็ต้องเจ็บไข้ไม่สบาย มีลาภแล้วลาภมันก็เสื่อมได้ มียศแล้ว
ยศมันก็สิ้นได้ มีสุขแล้วทุกข์มันก็มีได้ มีคนสรรเสริญแล้วคนนินทาก็มีได้ เกิดแล้วก็ต้องตายได้
ทุกอย่างมันธรรมดาแท้ๆ จนจิตชินต่ออารมณ์ มีอะไรที่เป็นทุกข์เกิดขึ้นก็รู้สึกว่าเป็นปกติ ไม่
ดิ้นรนหวั่นไหวอย่างนี้ ท่านเรียกว่าได้สังขารุเปกขาญาณในวิปัสสนาญาณ เป็นคุณธรรมที่ใกล้
ความเป็นผู้บรรลุพระโสดาบันแล้ว หมั่นคิดนึกไปเสมอ ๆ ถึงร่างกายที่มี สภาพเป็นซากศพ
ร่างกายที่ไม่มีอะไรแน่นอนจนจิตคิดเป็นปกติว่า ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มี
ในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ไม่หวั่นไหวต่อมรณภัย มีจิตใจศรัทธาเชื่อมั่นในคำสั่งสอน
ของพระพุทธเจ้า จิตว่างจากกรรมชั่วครู่ คือรักษาศีล ๕ ได้เป็นปกติ มีอารมณ์รักพระนิพพาน
เป็นปกติ คือ ใคร่ครวญปรารถนาแต่พระนิพพานไม่ต้องการความเกิดต่อไปอีก อย่างนี้ท่านว่า
ทรงคุณได้ในระดับพระโสดาบัน
ฉะนั้น ขอให้นักปฏิบัติที่ปฏิบัติในอสุภกรรมฐาน จงอุตส่าห์พยายามกำหนดพิจารณาให้
ขึ้นใจจนได้ปฏิภาคนิมิตในที่สุด แล้วรักษานิมิตนั้นไว้อย่าให้เสื่อม ต่อไปก็ยกเอานิมิตนั้นขึ้นสู่
อารมณ์วิปัสสนาญาณ ท่านจะเข้าถึงมรรคผลนิพพานได้ภายในไม่ช้าเลย การพิจารณาอย่างนี้
เรียกว่า พิจารณากำหนดรู้..........................................................................................
Tags : อสุภกรรมฐาน-หนังสือสำหรับพิจารณาสังขาร
สินค้าที่ดูล่าสุด
- อสุภกรรมฐาน-หนังสือสำหรับ... ราคา 200.00 ฿
สินค้าและบริการที่เกี่ยวข้อง
-
รวมบทพระธรรมเทศนาและปาฐกถากัณฑ์พิเศษพระราชธรรมวาที…
รหัส : 978-616-03-0293-2 ราคา : 300.00 ฿ อัพเดท : 28/03/2020 ผู้เข้าชม : 23,803สมุดภาพไตรภูมิพระร่วงเล่าเรื่องภูมิทั้ง3อันเป็นที่อยู่ของสัตว์โลกพระราชนิพนธ์ของพระยาลิไท
รหัส : 978-616-03-0258-1 ราคา : 270.00 ฿ อัพเดท : 24/04/2018 ผู้เข้าชม : 8,906 -
นรกสวรรค์ท่านเลือกได้ฉบับเฉลิมพระเกียรติ-พิเศษ
รหัส : 978-974-497-525-xx ราคา : 999.00 ฿ อัพเดท : 16/01/2019 ผู้เข้าชม : 16,870ปุจฉา วิสัชนาเรื่องบุญเป็นหลักชัยประสพสุข
รหัส : 978-616-03-0170-6 ราคา : 100.00 ฿ อัพเดท : 01/04/2011 ผู้เข้าชม : 1,184 -
เล่าเรื่อง บุญบาป บุญแท้จริงไม่ติดโลก
รหัส : 978-616-03-0172-0 ราคา : 100.00 ฿ อัพเดท : 07/04/2011 ผู้เข้าชม : 1,460จุดเปลี่ยนแห่งชีวิตพุทธธรรมนำมาประยุกต์เพื่อแก้ปัญหาสังคมไทยโดยประยูรธมฺมจิตฺโต
รหัส : 978-616-03-0320-5 ราคา : 70.00 ฿ อัพเดท : 24/04/2011 ผู้เข้าชม : 1,184 -
อธิบายหลักธรรมตามหมวด จาก...นวโกวาท…
รหัส : 978-974-9973-61-5 ราคา : 150.00 ฿ อัพเดท : 24/04/2011 ผู้เข้าชม : 3,084หนังสือหลักราชการ (พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว)…
รหัส : 978-611-03-0050-6 ราคา : 120.00 ฿ อัพเดท : 24/04/2011 ผู้เข้าชม : 1,605 -
วชิรญาณ สุภาษิต (คำสอนบรรพบุรุษ…
รหัส : 978-611-03-0051-3 ราคา : 140.00 ฿ อัพเดท : 09/05/2011 ผู้เข้าชม : 5,072คู่มือพระแท้ ธรรมปราโมทย์ รวบรวมและเรียบเรียง
รหัส : 978-974-458-963-2 ราคา : 250.00 ฿ อัพเดท : 03/03/2018 ผู้เข้าชม : 3,308 -
จาริก...เนปาล (นำทางนักท่องเที่ยวเนปาล…
รหัส : 978-974-453-600-6 ราคา : 350.00 ฿ อัพเดท : 10/05/2011 ผู้เข้าชม : 1,098สวนโมกข์นานาชาติ-บันทึกการปฏิบัติธรรม…
รหัส : 978-616-03-0319-9 ราคา : 70.00 ฿ อัพเดท : 10/05/2011 ผู้เข้าชม : 1,399 -
สวนโมขก์กับการปฏิบัติธรรม ปาฐกถาธรรมของพระอาจารย์ดุษฎี…
รหัส : 978-616-030301-4 ราคา : 70.00 ฿ อัพเดท : 10/05/2011 ผู้เข้าชม : 1,378สติ มรรคาเพื่อชีวิตใหม่
รหัส : 978-974-376-917-7 ราคา : 25.00 ฿ อัพเดท : 11/05/2011 ผู้เข้าชม : 1,800 -
มรณสติกถา : พุทธภาษิตเพื่อพิจารณาความตาย…
รหัส : 978611-03-0001-8 ราคา : 25.00 ฿ อัพเดท : 11/05/2011 ผู้เข้าชม : 8,498ทำอย่างไรจึงเรียนเก่ง ผู้แต่ง…
รหัส : 978-974-10-0575-8 ราคา : 20.00 ฿ อัพเดท : 16/05/2011 ผู้เข้าชม : 2,273