พระแก้วมรกต 

งาน องค์พระแกะสลักหยกแท้ ทั้งก้อน

หน้าตัก 5 นิ้ว  / สูง 6 นิ้ว / หนา 3 นิ้ว

โดยช่างผู้ชำนาญการ แกะสลัก พระพุทธรูป  โดยเฉพาะ

“แร่หยก ที่นำมา แกะสลักเป็นพระแก้วมรกตนี้ ”  ถ้าจะกล่าวถึงเฉพาะ เนื้อแร่หยกก่อน

“คนโบราณมีความเชื่อว่า แร่หยกสามารถดึงดูดความมั่งคั่ง เสริมความเจริญก้าวหน้า ปกป้องคุ้มครอง”

ลักษณะพิเศษของ หยกสีเขียวนี้ ตามความเชื่อและศรัทธาตั้งแต่สมัยโบราณ

ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวยและความมั่งคั่ง

มั่นคงทั้งครอบครัวและธุรกิจ เงินทองไหลมาเทมา เป็นสีแห่งความผ่อนคลาย ทำให้จิตใตสงบ และกล่าวได้ว่า

หยกเขียว ที่มีราคาแพงที่สุดและถึงว่าสีสวยที่สุดซึ่งไม่บ่อยครั้งนัก

ที่จะมีการขุดแร่หยกเขียวนี้ขึ้นมา จึงถือว่า เป็นแร่ที่มีราคาสูง

และยังมีความเชื่อแต่โบราณมาว่า เป็นแร่ที่ก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล แก่ผู้ที่มีเอาไว้

โดยทางช่างผู้ชำนาญการในด้านการแกะสลัดพระพุทธรูป

เมื่อท่านได้ค้นพบแร่หยกนี้ จึงเกิดความศรัทธาเลื่อมใส นึกถึงองค์พระแก้วมรกต ขึ้น จึงได้

ทำการ แกะสลัก เป็นพระพุทธรูปพระแก้วมรกต องค์จำลองขึ้น ให้เสมือนองค์จริง กล่าวคือ

พระแก้วมรกต: เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิพระพักตร์อิ่มเอิบ

ประกอบด้วยพระอุณหิสระหว่างพระขนง พระเมาลีตูม พระกรรณยาน พระนาสิกโด่ง

ประทับนั่งซ้อนพระบาทขวาทับพระบาทซ้าย แล้ววางพระหัตถ์

ขวาบนพระหัตถ์ซ้ายไว้บนหน้าตัก จีวรแนบพระมังสะเปิดบ่าขวา ปิดบ่าซ้าย

สังฆาฏิพาดบน พระอังสะซ้ายห้อยลงมาถึงระดับพระนาภี

สำหรับพระพุทธลักษณะของพระแก้วมรกตนั้น

มีนักศิลปโบราณคดี ตั้งข้อสังเกตว่า

ทรวดทรง พระพักตร์ของพระแก้วมรกต มีความละม้ายคล้าย กับพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนตอนปลาย

ส่วนตำนานพระแก้วมรกต

ในพระราชพงศาวดารกรุงกัมพูชา ก็อ้างหนังสือรัตนพิมพวงศ์

นำไปเขียนขึ้นในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระนโรดม (พ.ศ.๒๔๐๓-๒๔๗๗)

ส่วนในทัศนะทางศิลปะและโบราณคดี กล่าวไว้ว่า พระพุทธรูปเก่าที่สุดนั้น

นักสำรวจโบราณวัตถุพบที่เมืองคันธาระในประเทศปากีสถาน

พระพุทธรูปเหล่านั้นเป็นศิลปะกรีก พระพักตร์คล้ายเทวรูปกรีก

มีพระเกศาเป็นเส้นและเป็นมวยมุ่นอยู่กลางพระเศียร มีจีวรเป็นริ้ว 

นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าเป็นพระพุทธรูปรุ่นแรก

สร้างในพุทธศตวรรษที่ ๖ (ราว พ.ศ. ๖๐๐)  แต่นักโบราณคดีอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่า

พระพุทธรูปรุ่นแรกนั้น เป็นศิลปะอินเดีย สร้างที่เมืองมถุรา

ณ ประเทศอินเดีย ในพุทธศตวรรษเดียวกัน

กรณีการอัญเชิญของพระแก้วมรกตในเส้นทางต่างๆ แสดงให้เห็นว่าแท้ที่จริง

พระแก้วมรกตนั้นมีผู้พบครั้งแรกที่จังหวัดเชียงราย ในประเทศไทยภายหลัง

จึงตกไปอยู่ที่ประเทศลาว จนกระทั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

ทรงอัญเชิญกลับคืนมาสู่ประเทศไทยตามเดิม

พระแก้วมรกตจึงประดิษฐานอยู่ในกรุงเทพมหานคร จนปัจจุบนนี้

และเป็นประเพณีสืบมาว่าเมื่อมีการสมโภชพระนครคราวใดจะมีการสมโภชพระอารามด้วย

พระราชพิธีใดที่เป็นสิริมคลและสำคัญของบ้านเมืองจะจัดขึ้น

ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

แร่หินหยก ที่มีขนาดใหญ่ เท่านี้ หาได้ไม่มากนัก ท่านจึงได้แกะสลักขึ้นเพื่อให้เกิดความเป็น

สิริมงคลแก่ชีวิตผู้ที่จะนำไปบูชาต่อไป ซึ่งตั้งปณิธานให้ผู้ที่ได้นำไปบูชา

ได้นำไปประดิษฐานไว้เพื่อเป็นศูนย์รวมแก่จิตใจของคนในบ้านเรือน และสถานที่ที่จะจัดไว้บูชา

หยกที่ค้นพบ และการดำริการแกะสลัก พระแก้วมรกตในครั้งนี้

ด้วยลักษณะเฉพาะของก้อนหยก 1 ก้อน แต่มีลักษณะพิเศษ เฉพาะและเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในครั้งนี้

ทางคณะช่างแกะสลักพระพุทธรูป องค์พระแก้วมรกตนี้ หลังจากที่ท่านได้แร่หยกก้อนนี้ ท่านจึงทำการร่างแบบ

องค์พระแก้วมรกต เกิดดำริ ปราณาแกะสลัก เป็นองค์พระแก้วมรกต  4 องค์ และองค์พระพุทธรูปที่นำเสนอนี้ คือ

พระแก้วมรกต แบบ หน้าตัก 5 นิ้ว  / สูง 6 นิ้ว / หนา 3 นิ้ว นั่นเอง

บูชาพระแก้วมรกต องค์นี้ั 29,000 บาท (ยังไม่รวมค่าจัดส่งทั่วไทย) 

โดยศูนย์จัดส่งตู้และหนังสือพระไตรปิฎกไตรลักษณ์

สามารถ โทรสอบถามรายละเอียด พระพุทธรูปองค์นี้เพิ่มเติมที่

087-696-7771, 086-461-8505, 02-482-7358, 02-482-7093

ท่านสามารถสอบถามรายละเอียด ผ่านช่องทางไลน์ ได้ที่

👨🏻‍💻 LINE : @trilakbooks

หรือกดที่ ลิงค์ add Line ด้านล่างได้เลยครับ

https://line.me/R/ti/p/%40trilakbooks

--- --- --- --- --- --- ---

แผนที่สำหรับเดินทาง 🚙 มาด้วยตนเอง ที่

https://goo.gl/maps/Bym61zuguLE2

--- --- --- --- --- --- ---
สถานที่ตั้ง ศูนย์หนังสือไตรลักษณ์ จาก Google Business
https://g.co/kgs/irVwuQ

ท่านสามารถ ดูภาพพระพุทธรูปแบบอื่นๆ ได้ที่ 
http://www.ตู้พระไตรปิฎก.com/MONK.html

หรือคลิ๊กที่ภาพ